ไม่รู้เป็นอะไรช่วงนี้ logoceleb รับออกแบบโลโก้ ต้องได้ศึกษาศาสตร์ลึกลับตลอด โชคดีอ่านเจอบทความดีๆ ของ อ. เกริกวิชญ์ กฤษฎาพงษ์ เกี่ยวกับสี เบญจธาตุ เลยเอามาแชร์กัน ให้เป็นความรู้คู่ การทำงาน
รูปจาก www.gettyimages.com
สีนั้นมีพลังงานบางอย่างที่ส่งผลกระทบกับสิ่งมีชีวิตได้โดยสีแต่ละสีนั้น สามารถส่งผลให้คนนั้นรับรู้และเกิดความรู้สึกที่แตกต่างกันได้จึงส่งผลถึง อารมณ์ความรู้สึกนึกคิดต่างๆขึ้นมา ยกตัวอย่างเช่น เมื่อคนเราอยู่ห้องสีขาวหรือสีอ่อนก็ไม่รู้สึกร้อนแต่เมื่อคนอยู่ในห้องสี แดงก็จะรู้สึกร้อนขึ้นมาได้ทั้งที่ห้องนั้นไม่ได้มีเครื่องทำความร้อนชนิดใด ที่เปลี่ยนอุณหภูมิของห้องให้ร้อนขึ้นมาแต่ความรู้สึกของคนหรือสิ่งมีชีวิต นั้นรับรู้ถึงพลังงานของสีนั้นได้
ดังนั้นการใช้สีสันต่างๆนั้นจะต้องเลือกใช้อย่างสมดุลกันไม่มากหรือน้อยเกิน ไปเพราะพลังงานของสีนั้นจะทำให้สิ่งมีชีวิตนั้นเสียสมดุลได้ส่งผลให้เจ็บ ป่วย ซึมเซา ฯลฯ ได้ เช่น การหากเอากรงขังสัตว์มีผนังสีม่วงทึบนั้น พลังงานจากสีก็จะกระตุ้นอารมณ์ความรู้สึกของสัตว์ให้เกิดการเจ็บป่วยได้ แต่เมื่อเปลี่ยนสีผนังม่วงทึบไปเป็นสีอ่อน เช่น สีฟ้าแล้ว สัตว์นั้นกลับมีสุขภาพที่ดีขึ้นได้ แท้จริงพลังงานสีนั้นส่งผลต่อการหลังฮอร์โมนและเกิดปฎิกิริยาทางเคมีใน ร่างกายที่แตกต่างกันซึ่งส่งผลต่อชีวิตคนดังนั้นพลังงานจากสีนั้นเป็นปัจจัย อย่างหนึ่งที่ต้องให้ความสำคัญในศาสตร์ฮวงจุ้ย
สีของวัตถุแต่ละชิ้นนั้นเกิดจากที่แสงนั้นสัมผัสกับวัตถุโดยวัตถุนั้นจะดูด กลืนแสงบางความถี่และกระจายหรือสะท้อนแสงบางความถี่ออกมา โดยแต่ละความถี่ของแสงก็จะแสดงสีสันออกมาต่างกัน เช่นแสดงเป็นสีเหลือง น้ำตาล แดง ส้ม ฟ้า น้ำเงิน เขียว ฯลฯ ขณะที่วัตุสีดำคือวัตถุที่ดูดกลืนแสงหรือไม่สะท้อนแสงทุกความถี่ ตรงกันข้ามกับสีขาวที่ไม่ดูดกลืนหรือสะท้อนแสงทุกความถี่ออกมา เมื่อแสงแต่ละความถี่กระทบกับดวงตาก็จะทำให้เห็นสีที่แตกต่างกันและส่งผลต่อ ความรู้สึกที่แตกต่างกันนั้นเอง
แม้ว่าแสงนั้นจะก่อให้เกิดสีมากมายจากพลังงานความถี่ที่แตกต่างกัน แต่สำหรับในวิชาภูมิปัญญาจีนแล้วสีนั้นจะแบ่งเป็น 5 ธาตุเท่านั้น เนื่องจากชาวจีนนั้นเชื่อว่าทุกสรรพสิ่งไม่ว่าจะเป็นรูปธรรมหรือนามธรรมนั้น สามารถแบ่งออกเป็นธาตุต่างๆทั้ง 5 ธาตุ (ดิน ทอง น้ำ ไม้ ไฟ) โดยแต่ละธาตุก็จะมีลักษณะของพลังงาน รูปทรงรูปร่าง วัตถุสสาร สีสรร ฯลฯ แตกต่าง โดยสีสรรต่างๆนั้นก็สามารถแจกแจงเป็น 5 ธาตุได้ ตามข้อมูลด้านล่างนี้
ข้อมูลแสดงการแบ่งสีต่างๆให้สอดคล้องกับธาตุ
ธาตุดิน ได้แก่ สีเหลือง,ส้ม,น้ำตาล,ครีม,อิฐ,สีแทน
ธาตุทอง ได้แก่ ทอง สีขาว , เงิน , ทอง
ธาตุน้ำ ได้แก่ สีฟ้า , น้ำเงิน , ดำ, เทาเข้ม
ธาตุไม้ ได้แก่ สีเขียว (แก่และอ่อน)
ธาตุไฟ ได้แก่ สีแดง , ม่วงแดง, ชมพู
ธาตุดิน ซึ่งเปรียบได้กับดิน หิน ทรายที่รองรับสรรพสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้จึงเปรียบเสมือนความอดทน หนักแน่น มั่นคง ยึดมั่นในสิ่งที่เป็นอยู่ ซึ่งสีแห่งพลังธาตุดินนั้นคือสีเหลือง ส้ม น้ำตาล ครีม โดยสีเหลืองนั้นจะเปรียบเหมือนจุดศูนย์รวมพลังงานที่รองรับทุกสรรพสิ่งและ เป็นสีแห่งอำนาจ ซึ่งจักรพรรดิจีนทุกองค์นั้นจะใช้ชุดเป็นสีเหลืองเสมอ ขณะที่สีน้ำตาลก็หมายถึงมั่นคง สมดุลที่เรียบง่าย
ธาตุทอง ซึ่งเปรียบได้กับโลหะที่มีความแข็งแรง ความชัดเจน เร็วแรง เฉียบคม ความแน่นอนเด็ดขาด ยุติธรรม หากสังเกตสิ่งของที่เคลื่อนไหวรวดเร็วหรือของแข็งต่างๆมักจะเป็นวัตถุธาตุ ที่เป็นโลหะ เช่น เครื่องจักร รถยนต์ ฯลฯ ซึ่งสีแห่งธาตุทองคือสีเงิน สีทอง และสีขาวโดยสีขาวนั้นคือความแวววาวสูงสุดของโลหะซึ่งสะท้อนแสงออกมาเป็นสี ขาว ซึ่งจริงแล้วสีขาวนั้นเป็นสีแห่งความบริสุทธิ์ยุติธรรมซึ่งทั่วไปแล้วจะใช้ เป็นสีขาวเป็นชุดทางพิธีกรรมของหลายศาสนา
ธาตุน้ำ เปรียบเสมือนความใสของปัญญา ความลึกซึ้งของความคิดเหมือนน้ำที่ใสสะอาด นอกจากนี้น้ำเป็นสิ่งที่สามารถไหลไปได้ทุกแห่งหน เปลี่ยนรูปร่างตามภาชนะที่บรรจุได้จึงเปรียบเสมือนกับการพลิกแพลง ปรับตัวให้เข้ากับสิ่งต่างๆนั้นได้ ธาตุน้ำยึงหมายถึงความลึกลับ ซ้อนเร้นเหมือนกับมหาสมุทรที่ลึกมืดจนมองไม่เห็นสิ่งใดๆ ซึ่งสีของธาตุน้ำคือสีฟ้า น้ำเงิน ซึ่งหมายถึงความเยือกเย็น สงบนิ่งเหมือนปัญญาใสนิ่งสงบ และเป็นสีที่ช่วยในการบำบัดโรคได้ดีอีกด้วย นอกจากนี้สีดำยังเป็นสีของธาตุน้ำซึ่งเปรียบเสมือนน้ำลึกไม่เห็นแสงใดๆ จึงหมายถึงความลึกลับ ซ้อนเร้น ความเฉลียดฉลาดทางปัญญาที่ลึกซึ้ง
ธาตุไม้ เปรียบเหมือนการพัฒนา เมตตา วิชาการ ความคิดสร้างสรรค์เหมือนต้นไม้เป็นสิ่งมีชีวิตที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆเหมือน การพัฒนาไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาทางด้านการศึกษา วิชาการต่างๆ และต้นไม้นั้นแตกกิ่งก้านสาขาจากลำต้นเปรียบเหมือนความคิดสร้างสรรค์ต่างๆ นานาที่แตกแขนง นอกจากนี้ต้นไม้ยังให้ความร่มรื่นต่อสัตว์อื่น มีผลมีดอกให้คนนำไปใช้ประโยชน์จึงเปรียบเสมือนต้นไม้มีความเมตตาต่อสรรพสิ่ง อื่นๆ ซึ่งสีเขียวนั้นเป็นพลังของธาตุไม้ซึ่งเป็นสีของการเจริญเติบโต ฟื้นฟูสิ่งต่างๆ โดยเป็นสีหลักที่โรงพยาบาลซึ่งเหมือนเป็นสีแห่งการฟื้นฟูร่างกายให้แข็งแรง และมีพัฒนาการ
ธาตุไฟ เปรียบเหมือนเปลวไฟที่โดดเด่นจึงเกี่ยวกับ ชื่อเสียง การแสดงออก ไฟยังแผ่กระจายพลังงานดังนั้นก็เปรียบเหมือนการให้ความอบอุ่น การให้ความรู้ให้กระจ่าง ซึ่งสีของธาตุไฟนั้นคือสีแดง สีชมพู และม่วงแดง โดยสีแดงนั้นคือความร้อนแรง กระตืนรืนร้น ความสนุกสนาน ความยินดีปิติจึงเหมาะกับงานเฉลิมฉลองหรืองานมงคลต่างๆ นอกจากนี้เป็นสีที่กระตุ้นพลังงานได้มากจึงต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมเพราะ สามารถกระตุ้นพลังงานที่ดีหรือที่ร้ายได้ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้ให้เหมาะสม ส่วนสีชมพูคือสีแห่งความรัก ความอ่อนโยน นุ่มนวล ส่วนสีม่วงแดงคือสีแห่งพลังทางด้านจิตวิญญาณ
ส่วนการเลือกใช้สีนั้นก็มีหลายทฤษฎีสำหรับการเลือกใช้สีต่างๆซึ่งในบทความ นี้คงไม่กล่าวถึงการใช้สีในเชิงการตกแต่งภายในและภายนอกตามหลักสถาปัตยกรรม แต่จะกล่าวถึงการใช้สีตามภูมิปัญญาจีนเป็นหลักซึ่งก็ได้กล่าวคร่าวๆเกี่ยว กับความหมายในแต่ละสีที่ถูกแบ่งเป็นธาตุต่างๆและมีความหมายที่แตกต่างกัน โดยสามารถเลือกใช้สีเพื่อให้ก่อเกิดตามความหมายที่กล่าวไปเบื้องต้นได้เช่น กัน แต่อย่างไรก็ตามการเลือกใช้สีนั้นยังมีอีก 2 ทฤษฎีด้วยกันคือการเลือกใช้สีให้สอดคล้องกับองศาทิศทางตามหลักวิชาฮวงจุ้ย ที่ต้องคำนวนในแต่ละสถานที่และอีกวีธีคือการเลือกใช้สีให้สอดคล้องกับดวง ชะตาคนแต่ละคน ซึ่งการใช้สีตามหลักฮวงจุ้ยนั้นจะส่งผลกับทุกๆคนที่อยู่บริเวณสถานที่ที่ใช้ สีนั้นๆเป็นหลัก ขณะที่การใช้สีให้สอดคล้องกับดวงชะตาคนนั้นจะเป็นการใช้สีเพื่อเสริมเฉพาะ บุคคลเท่านั้นไม่ได้เกิดผลรวมคนอื่นๆ
การใช้สีกับองศาทิศทางของฮวงจุ้ยจะพิจารณาสีให้สอดคล้องกับพลังงานในแต่ละ องศาทิศทางเพื่อไปกระตุ้นพลังงานที่ดีให้ดียิ่งขึ้น เช่น หากคำนวนองศาทิศทางแล้วทิศใต้มีปราณพลังธาตุไฟที่ดีก็ควรที่ใช้สีของธาตุไฟ หรือสีของธาตุไม้บริเวณนั้น เนื่องจากสีธาตุไฟ (สีแดง ชมพู ม่วงแดง) เป็นสีพลังงานลักษณะเดียวกันกับปราณพลังงานธาตุไฟจึงส่งเสริมปราณพลังงาน ธาตุไฟให้มีพลังมากขึ้น ส่วนสีของธาตุไม้ซึ่งปกติแล้วธาตุไม้เป็นธาตุที่ก่อเกิดธาตุไฟให้มีกำลังมาก ขึ้นเหมือนไม้เป็นเชื้อเพลิงดังนั้นหากใช้สีของธาตุไม้ (สีเขียว) ก็จะยิ่งกระตุ้นพลังงานธาตุไฟให้กำลังมากขึ้นเช่นกัน ซึ่งการยกตัวอย่างนี้เป็นรายละเอียดคราวๆ นอกจากนี้ยังเลือกใช้สีลดทอนพลังที่ร้ายให้ร้ายน้อยลงในแต่ละองศาทิศทางได้ อีกด้วย ซึ่งแท้จริงหลักการใช้สีนั้นอ้างอิงถึงหลักของตามปฎิกิริยา 5 ธาตุ ที่มีสัมพันธ์ของแต่ละธาตุต่างกัน โดยบางธาตุก่อเกิดพลังให้บางธาตุ บางธาตุถ่ายเทพลังงานของบางธาตุ และบางธาตุพิฆาตควบคุมบางธาตุนั้นเอง
รูปวงจรปฏิกิริยา 5 ธาตุ
ภาพวงจรปฎิกิริยา 5 ธาตุซึ่งมีวงจรของการก่อเกิดและถ่ายพลังระหว่างธาตุ รวมถึงวงจรการพิฆาตพลังกันระหว่างธาตุ (ภาพจาก www.modernfs.com)
ส่วนวีธีการเลือกใช้สีให้ถูกต้องกับบุคคลนั้นก็จะพิจารณาจากวิชาดวงจีนเป็น หลักซึ่งจะแปลปี เดือน วัน ยาม เกิดของแต่คนเป็นธาตุต่างหลายธาตุมาประจุอยู่ในตัวคนแล้วความสมดุลของธาตุใน แต่ละดวงคน ซึ่งแต่ละดวงคนจะมีความต้องการธาตุบางธาตุเป็นพิเศษเพื่อมาเสริมความสมดุล และก็ไม่ต้องการธาตุบางธาตุที่ทำลายความสมดุลจึงทำให้มีธาตุที่ให้คุณและให้ โทษต่างกันไปในแต่ละคน โดยดวงคนที่ต้องการธาตุน้ำก็ควรเลือกใช้สีฟ้า น้ำเงิน ดำ ดวงชอบธาตุไม้ก็เลือกใช้สีเขียวอ่อนหรือเข้ม ดวงชอบธาตุไฟก็ใช้สีแดง ชมพู ม่วงแดง ดวงชอบธาตุดินก็ใช้สีเหลือง น้ำตาล ส้ม ครีม และดวงชอบธาตุทองก็ให้ใช้สีขาว เงิน ทอง ซึ่งดวงคนแต่ละดวงก็จะมีธาตุที่ให้คุณประมาณ 2-3 ธาตุเป็นส่วนใหญ่จึงทำให้มีสีให้เลือกใช้สำหรับแต่ละดวงคนเยอะพอสมควร เพียงแต่ดวงแต่ละคนนั้นก็จะมีธาตุที่สำคัญสูงสุดซึ่งทำให้สีของธาตุนั้นเป็น สีสำคัญที่ดีสุดสำหรับดวงแต่ละคนด้วย เนื่องจากการใช้สีเสริมดวงคนนั้นเป็นการเสริมเจาะจงเฉพาะตัวบุคคลดังนั้นจึง เหมาะกับสิ่งที่ใช้เป็นเฉพาะเจาะต่อคนนั้นๆ เช่น สีห้องนอนของแต่ละคน สีของเครื่องแต่งกาย สีเครื่องประดับ สีรถยนต์ เป็นต้น
การพิจารณาคำนวนปราณว่าทิศทางไหนจะมีพลังงานดีหรือร้ายแล้วเลือกใช้สีต่างๆ ให้สอดคล้องตามหลักฮวงจุ้ยนั้นสลับซับซ้อนและต้องคำนวนตามองศาแกนแม่เหล็ก โลกของสถานที่นั้นเป็นหลัก ส่วนการหาธาตุให้คุณให้โทษตามดวงชะตาคนนั้นก็ต้องอาศัยการคำนวนที่ต้องใช้ ประสบการณ์ทางด้านดวงจีน ดังนั้นหากจะพิจารณาใช้สีต่างๆให้ถูกต้องจริงจำเป็นต้องศึกษาให้เข้าใจหลัก การฮวงจุ้ยและดวงจีนทั้ง 2 ด้าน เพื่อให้เลือกใช้สีที่เหมาะสมที่ถูกต้องสอดคล้องของหลักการของ 2 วิชาร่วมกันก็จะทำให้การเลือกใช้สีนั้นถูกต้องและให้คุณประโยชน์สูงสุด
แหล่งที่มา
www.baannatura.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น