วันเสาร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ผลงาน รับออกแบบโลโก้ ประจำเดือน แห่งความรัก

แม้หลายคนจะบอกว่า รักออกแบบไม่ได้ แต่แบรนด์สินค้าดีๆ ออกแบบได้นะครับ เริ่มต้นง่ายๆที่ logocelebครีเอทีพ ดีไซต์เนอร์ รับออกแบบโลโก้ งานไอเดียๆ ทรงพลังแห่งการจดจำ www.logoceleb.com






เพื่อให้ลูกค้าสร้างแบรนด์ได้  360 องศา logoceleb จึึงเปิดรับ งานออกแบบ ต่างๆ นอกจาก ออกแบบโลโก้ เช่น งานสื่อสิ่งพิมพ์ (แผ่นพับ, โบชัวร์, โปสเตอร์ ฯลฯ ) ตลอดจน งานออกแบบเว็บ และ พัฒนาแอฟลิเคชั่น
ชมผลงานได้ที่ www.logoceleb.com
www.facebook.com/logoceleb
หรือติดต่อ youngseed.tan@gmail.com

วันพุธที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

สีเบญจธาตุ ตามหลักภูมิปัญญาจีน

ไม่รู้เป็นอะไรช่วงนี้ logoceleb รับออกแบบโลโก้ ต้องได้ศึกษาศาสตร์ลึกลับตลอด โชคดีอ่านเจอบทความดีๆ ของ อ. เกริกวิชญ์ กฤษฎาพงษ์ เกี่ยวกับสี เบญจธาตุ เลยเอามาแชร์กัน ให้เป็นความรู้คู่ การทำงาน


    
                          รูปจาก www.gettyimages.com
     
     สีนั้นมีพลังงานบางอย่างที่ส่งผลกระทบกับสิ่งมีชีวิตได้โดยสีแต่ละสีนั้น สามารถส่งผลให้คนนั้นรับรู้และเกิดความรู้สึกที่แตกต่างกันได้จึงส่งผลถึง อารมณ์ความรู้สึกนึกคิดต่างๆขึ้นมา ยกตัวอย่างเช่น เมื่อคนเราอยู่ห้องสีขาวหรือสีอ่อนก็ไม่รู้สึกร้อนแต่เมื่อคนอยู่ในห้องสี แดงก็จะรู้สึกร้อนขึ้นมาได้ทั้งที่ห้องนั้นไม่ได้มีเครื่องทำความร้อนชนิดใด ที่เปลี่ยนอุณหภูมิของห้องให้ร้อนขึ้นมาแต่ความรู้สึกของคนหรือสิ่งมีชีวิต นั้นรับรู้ถึงพลังงานของสีนั้นได้

     ดังนั้นการใช้สีสันต่างๆนั้นจะต้องเลือกใช้อย่างสมดุลกันไม่มากหรือน้อยเกิน ไปเพราะพลังงานของสีนั้นจะทำให้สิ่งมีชีวิตนั้นเสียสมดุลได้ส่งผลให้เจ็บ ป่วย ซึมเซา ฯลฯ ได้ เช่น การหากเอากรงขังสัตว์มีผนังสีม่วงทึบนั้น พลังงานจากสีก็จะกระตุ้นอารมณ์ความรู้สึกของสัตว์ให้เกิดการเจ็บป่วยได้ แต่เมื่อเปลี่ยนสีผนังม่วงทึบไปเป็นสีอ่อน เช่น สีฟ้าแล้ว สัตว์นั้นกลับมีสุขภาพที่ดีขึ้นได้ แท้จริงพลังงานสีนั้นส่งผลต่อการหลังฮอร์โมนและเกิดปฎิกิริยาทางเคมีใน ร่างกายที่แตกต่างกันซึ่งส่งผลต่อชีวิตคนดังนั้นพลังงานจากสีนั้นเป็นปัจจัย อย่างหนึ่งที่ต้องให้ความสำคัญในศาสตร์ฮวงจุ้ย

     สีของวัตถุแต่ละชิ้นนั้นเกิดจากที่แสงนั้นสัมผัสกับวัตถุโดยวัตถุนั้นจะดูด กลืนแสงบางความถี่และกระจายหรือสะท้อนแสงบางความถี่ออกมา โดยแต่ละความถี่ของแสงก็จะแสดงสีสันออกมาต่างกัน เช่นแสดงเป็นสีเหลือง น้ำตาล แดง ส้ม ฟ้า น้ำเงิน เขียว ฯลฯ ขณะที่วัตุสีดำคือวัตถุที่ดูดกลืนแสงหรือไม่สะท้อนแสงทุกความถี่ ตรงกันข้ามกับสีขาวที่ไม่ดูดกลืนหรือสะท้อนแสงทุกความถี่ออกมา เมื่อแสงแต่ละความถี่กระทบกับดวงตาก็จะทำให้เห็นสีที่แตกต่างกันและส่งผลต่อ ความรู้สึกที่แตกต่างกันนั้นเอง

     แม้ว่าแสงนั้นจะก่อให้เกิดสีมากมายจากพลังงานความถี่ที่แตกต่างกัน แต่สำหรับในวิชาภูมิปัญญาจีนแล้วสีนั้นจะแบ่งเป็น 5 ธาตุเท่านั้น เนื่องจากชาวจีนนั้นเชื่อว่าทุกสรรพสิ่งไม่ว่าจะเป็นรูปธรรมหรือนามธรรมนั้น สามารถแบ่งออกเป็นธาตุต่างๆทั้ง 5 ธาตุ (ดิน ทอง น้ำ ไม้ ไฟ) โดยแต่ละธาตุก็จะมีลักษณะของพลังงาน รูปทรงรูปร่าง วัตถุสสาร สีสรร ฯลฯ แตกต่าง โดยสีสรรต่างๆนั้นก็สามารถแจกแจงเป็น 5 ธาตุได้ ตามข้อมูลด้านล่างนี้

ข้อมูลแสดงการแบ่งสีต่างๆให้สอดคล้องกับธาตุ
ธาตุดิน ได้แก่ สีเหลือง,ส้ม,น้ำตาล,ครีม,อิฐ,สีแทน
ธาตุทอง ได้แก่ ทอง สีขาว , เงิน , ทอง
ธาตุน้ำ ได้แก่ สีฟ้า , น้ำเงิน , ดำ, เทาเข้ม

ธาตุไม้ ได้แก่ สีเขียว (แก่และอ่อน)
ธาตุไฟ ได้แก่ สีแดง , ม่วงแดง, ชมพู

ธาตุดิน ซึ่งเปรียบได้กับดิน หิน ทรายที่รองรับสรรพสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้จึงเปรียบเสมือนความอดทน หนักแน่น มั่นคง ยึดมั่นในสิ่งที่เป็นอยู่ ซึ่งสีแห่งพลังธาตุดินนั้นคือสีเหลือง ส้ม น้ำตาล ครีม โดยสีเหลืองนั้นจะเปรียบเหมือนจุดศูนย์รวมพลังงานที่รองรับทุกสรรพสิ่งและ เป็นสีแห่งอำนาจ ซึ่งจักรพรรดิจีนทุกองค์นั้นจะใช้ชุดเป็นสีเหลืองเสมอ ขณะที่สีน้ำตาลก็หมายถึงมั่นคง สมดุลที่เรียบง่าย

ธาตุทอง ซึ่งเปรียบได้กับโลหะที่มีความแข็งแรง ความชัดเจน เร็วแรง เฉียบคม ความแน่นอนเด็ดขาด ยุติธรรม หากสังเกตสิ่งของที่เคลื่อนไหวรวดเร็วหรือของแข็งต่างๆมักจะเป็นวัตถุธาตุ ที่เป็นโลหะ เช่น เครื่องจักร รถยนต์ ฯลฯ ซึ่งสีแห่งธาตุทองคือสีเงิน สีทอง และสีขาวโดยสีขาวนั้นคือความแวววาวสูงสุดของโลหะซึ่งสะท้อนแสงออกมาเป็นสี ขาว ซึ่งจริงแล้วสีขาวนั้นเป็นสีแห่งความบริสุทธิ์ยุติธรรมซึ่งทั่วไปแล้วจะใช้ เป็นสีขาวเป็นชุดทางพิธีกรรมของหลายศาสนา

ธาตุน้ำ เปรียบเสมือนความใสของปัญญา ความลึกซึ้งของความคิดเหมือนน้ำที่ใสสะอาด นอกจากนี้น้ำเป็นสิ่งที่สามารถไหลไปได้ทุกแห่งหน เปลี่ยนรูปร่างตามภาชนะที่บรรจุได้จึงเปรียบเสมือนกับการพลิกแพลง ปรับตัวให้เข้ากับสิ่งต่างๆนั้นได้ ธาตุน้ำยึงหมายถึงความลึกลับ ซ้อนเร้นเหมือนกับมหาสมุทรที่ลึกมืดจนมองไม่เห็นสิ่งใดๆ ซึ่งสีของธาตุน้ำคือสีฟ้า น้ำเงิน ซึ่งหมายถึงความเยือกเย็น สงบนิ่งเหมือนปัญญาใสนิ่งสงบ และเป็นสีที่ช่วยในการบำบัดโรคได้ดีอีกด้วย นอกจากนี้สีดำยังเป็นสีของธาตุน้ำซึ่งเปรียบเสมือนน้ำลึกไม่เห็นแสงใดๆ จึงหมายถึงความลึกลับ ซ้อนเร้น ความเฉลียดฉลาดทางปัญญาที่ลึกซึ้ง

ธาตุไม้ เปรียบเหมือนการพัฒนา เมตตา วิชาการ ความคิดสร้างสรรค์เหมือนต้นไม้เป็นสิ่งมีชีวิตที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆเหมือน การพัฒนาไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาทางด้านการศึกษา วิชาการต่างๆ และต้นไม้นั้นแตกกิ่งก้านสาขาจากลำต้นเปรียบเหมือนความคิดสร้างสรรค์ต่างๆ นานาที่แตกแขนง นอกจากนี้ต้นไม้ยังให้ความร่มรื่นต่อสัตว์อื่น มีผลมีดอกให้คนนำไปใช้ประโยชน์จึงเปรียบเสมือนต้นไม้มีความเมตตาต่อสรรพสิ่ง อื่นๆ ซึ่งสีเขียวนั้นเป็นพลังของธาตุไม้ซึ่งเป็นสีของการเจริญเติบโต ฟื้นฟูสิ่งต่างๆ โดยเป็นสีหลักที่โรงพยาบาลซึ่งเหมือนเป็นสีแห่งการฟื้นฟูร่างกายให้แข็งแรง และมีพัฒนาการ

ธาตุไฟ เปรียบเหมือนเปลวไฟที่โดดเด่นจึงเกี่ยวกับ ชื่อเสียง การแสดงออก ไฟยังแผ่กระจายพลังงานดังนั้นก็เปรียบเหมือนการให้ความอบอุ่น การให้ความรู้ให้กระจ่าง ซึ่งสีของธาตุไฟนั้นคือสีแดง สีชมพู และม่วงแดง โดยสีแดงนั้นคือความร้อนแรง กระตืนรืนร้น ความสนุกสนาน ความยินดีปิติจึงเหมาะกับงานเฉลิมฉลองหรืองานมงคลต่างๆ นอกจากนี้เป็นสีที่กระตุ้นพลังงานได้มากจึงต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมเพราะ สามารถกระตุ้นพลังงานที่ดีหรือที่ร้ายได้ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้ให้เหมาะสม ส่วนสีชมพูคือสีแห่งความรัก ความอ่อนโยน นุ่มนวล ส่วนสีม่วงแดงคือสีแห่งพลังทางด้านจิตวิญญาณ

     ส่วนการเลือกใช้สีนั้นก็มีหลายทฤษฎีสำหรับการเลือกใช้สีต่างๆซึ่งในบทความ นี้คงไม่กล่าวถึงการใช้สีในเชิงการตกแต่งภายในและภายนอกตามหลักสถาปัตยกรรม แต่จะกล่าวถึงการใช้สีตามภูมิปัญญาจีนเป็นหลักซึ่งก็ได้กล่าวคร่าวๆเกี่ยว กับความหมายในแต่ละสีที่ถูกแบ่งเป็นธาตุต่างๆและมีความหมายที่แตกต่างกัน โดยสามารถเลือกใช้สีเพื่อให้ก่อเกิดตามความหมายที่กล่าวไปเบื้องต้นได้เช่น กัน แต่อย่างไรก็ตามการเลือกใช้สีนั้นยังมีอีก 2 ทฤษฎีด้วยกันคือการเลือกใช้สีให้สอดคล้องกับองศาทิศทางตามหลักวิชาฮวงจุ้ย ที่ต้องคำนวนในแต่ละสถานที่และอีกวีธีคือการเลือกใช้สีให้สอดคล้องกับดวง ชะตาคนแต่ละคน ซึ่งการใช้สีตามหลักฮวงจุ้ยนั้นจะส่งผลกับทุกๆคนที่อยู่บริเวณสถานที่ที่ใช้ สีนั้นๆเป็นหลัก ขณะที่การใช้สีให้สอดคล้องกับดวงชะตาคนนั้นจะเป็นการใช้สีเพื่อเสริมเฉพาะ บุคคลเท่านั้นไม่ได้เกิดผลรวมคนอื่นๆ

     การใช้สีกับองศาทิศทางของฮวงจุ้ยจะพิจารณาสีให้สอดคล้องกับพลังงานในแต่ละ องศาทิศทางเพื่อไปกระตุ้นพลังงานที่ดีให้ดียิ่งขึ้น เช่น หากคำนวนองศาทิศทางแล้วทิศใต้มีปราณพลังธาตุไฟที่ดีก็ควรที่ใช้สีของธาตุไฟ หรือสีของธาตุไม้บริเวณนั้น เนื่องจากสีธาตุไฟ (สีแดง ชมพู ม่วงแดง) เป็นสีพลังงานลักษณะเดียวกันกับปราณพลังงานธาตุไฟจึงส่งเสริมปราณพลังงาน ธาตุไฟให้มีพลังมากขึ้น ส่วนสีของธาตุไม้ซึ่งปกติแล้วธาตุไม้เป็นธาตุที่ก่อเกิดธาตุไฟให้มีกำลังมาก ขึ้นเหมือนไม้เป็นเชื้อเพลิงดังนั้นหากใช้สีของธาตุไม้ (สีเขียว) ก็จะยิ่งกระตุ้นพลังงานธาตุไฟให้กำลังมากขึ้นเช่นกัน ซึ่งการยกตัวอย่างนี้เป็นรายละเอียดคราวๆ นอกจากนี้ยังเลือกใช้สีลดทอนพลังที่ร้ายให้ร้ายน้อยลงในแต่ละองศาทิศทางได้ อีกด้วย ซึ่งแท้จริงหลักการใช้สีนั้นอ้างอิงถึงหลักของตามปฎิกิริยา 5 ธาตุ ที่มีสัมพันธ์ของแต่ละธาตุต่างกัน โดยบางธาตุก่อเกิดพลังให้บางธาตุ บางธาตุถ่ายเทพลังงานของบางธาตุ และบางธาตุพิฆาตควบคุมบางธาตุนั้นเอง

    รูปวงจรปฏิกิริยา 5 ธาตุ
    
ภาพวงจรปฎิกิริยา 5 ธาตุซึ่งมีวงจรของการก่อเกิดและถ่ายพลังระหว่างธาตุ รวมถึงวงจรการพิฆาตพลังกันระหว่างธาตุ (ภาพจาก www.modernfs.com)

     ส่วนวีธีการเลือกใช้สีให้ถูกต้องกับบุคคลนั้นก็จะพิจารณาจากวิชาดวงจีนเป็น หลักซึ่งจะแปลปี เดือน วัน ยาม เกิดของแต่คนเป็นธาตุต่างหลายธาตุมาประจุอยู่ในตัวคนแล้วความสมดุลของธาตุใน แต่ละดวงคน ซึ่งแต่ละดวงคนจะมีความต้องการธาตุบางธาตุเป็นพิเศษเพื่อมาเสริมความสมดุล และก็ไม่ต้องการธาตุบางธาตุที่ทำลายความสมดุลจึงทำให้มีธาตุที่ให้คุณและให้ โทษต่างกันไปในแต่ละคน โดยดวงคนที่ต้องการธาตุน้ำก็ควรเลือกใช้สีฟ้า น้ำเงิน ดำ ดวงชอบธาตุไม้ก็เลือกใช้สีเขียวอ่อนหรือเข้ม ดวงชอบธาตุไฟก็ใช้สีแดง ชมพู ม่วงแดง ดวงชอบธาตุดินก็ใช้สีเหลือง น้ำตาล ส้ม ครีม และดวงชอบธาตุทองก็ให้ใช้สีขาว เงิน ทอง ซึ่งดวงคนแต่ละดวงก็จะมีธาตุที่ให้คุณประมาณ 2-3 ธาตุเป็นส่วนใหญ่จึงทำให้มีสีให้เลือกใช้สำหรับแต่ละดวงคนเยอะพอสมควร เพียงแต่ดวงแต่ละคนนั้นก็จะมีธาตุที่สำคัญสูงสุดซึ่งทำให้สีของธาตุนั้นเป็น สีสำคัญที่ดีสุดสำหรับดวงแต่ละคนด้วย เนื่องจากการใช้สีเสริมดวงคนนั้นเป็นการเสริมเจาะจงเฉพาะตัวบุคคลดังนั้นจึง เหมาะกับสิ่งที่ใช้เป็นเฉพาะเจาะต่อคนนั้นๆ เช่น สีห้องนอนของแต่ละคน สีของเครื่องแต่งกาย สีเครื่องประดับ สีรถยนต์ เป็นต้น

     การพิจารณาคำนวนปราณว่าทิศทางไหนจะมีพลังงานดีหรือร้ายแล้วเลือกใช้สีต่างๆ ให้สอดคล้องตามหลักฮวงจุ้ยนั้นสลับซับซ้อนและต้องคำนวนตามองศาแกนแม่เหล็ก โลกของสถานที่นั้นเป็นหลัก ส่วนการหาธาตุให้คุณให้โทษตามดวงชะตาคนนั้นก็ต้องอาศัยการคำนวนที่ต้องใช้ ประสบการณ์ทางด้านดวงจีน ดังนั้นหากจะพิจารณาใช้สีต่างๆให้ถูกต้องจริงจำเป็นต้องศึกษาให้เข้าใจหลัก การฮวงจุ้ยและดวงจีนทั้ง 2 ด้าน เพื่อให้เลือกใช้สีที่เหมาะสมที่ถูกต้องสอดคล้องของหลักการของ 2 วิชาร่วมกันก็จะทำให้การเลือกใช้สีนั้นถูกต้องและให้คุณประโยชน์สูงสุด 


แหล่งที่มา
www.baannatura.com

วันอังคารที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

6 วิธีง่ายๆ เริ่มต้น การออกแบบโลโก้ สร้างแบรนด์ที่ดี

6 วิธี เริ่มต้นการออกแบบโลโก้ สร้างแบรนด์ที่ดี 

หลายครั้งที่ข้าน้อย รับงานออกแบบโลโก้ เจ้าพ่อคุณลูกค้า ก็อยากได้งานในความคิด กับ ความรู้สึกว่า "สวย" ในแบบของฉัน ก็ไม่ผิดนะ แต่วันนี้เจอบทความดีๆ เลยนำมาเสนอ เพื่อลูกค้าเทพเจ้าจะเข้าใจได้ และเริ่มต้นได้อย่างถูกวิธี

การออกแบบโลโก้ ของแบรนด์เป็นสิ่งสำคัญมากที่จะทำให้คนจำสินค้า จำธุรกิจเราได้ หรือถ้าทำออกมาไม่ดีเค้าก็อาจจะจำเราสับสนกับแบรนด์คู่แข่งไปเลยก็ได้ วันนี้ก็สรุปมาเป็น 6 หลักการคิดเพื่อออกแบบโลโก้ออกมาให้ดี

1. อยากให้โลโก้ “สื่ออารมณ์” แบบไหน

ก่อนจะเริ่มเลือกสี เลือกรูปทรง เราต้องรู้ก่อนว่าอยากให้ออกมามีอารมณ์แบบไหน ซึ่งอารมณ์ที่เราเลือกก็ควรจะสอดคล้องกับหน้าตาของแบรนด์ที่เราต้องการด้วย ครับ
logo-design-compare
ตัวอย่างเช่น โลโก้ของ Disney สื่อถึง “ความสนุก” และ “การมองโลกในแง่ดี” โดยตัวอักษรโค้งทำให้ดูสนุก และสอดคล้องกับแบรนด์ที่เป็นการ์ตูนน่ารัก ๆ สำหรับเด็กอีกด้วย ซึ่งถ้าเราเอาโลโก้แบบ Disney ไปใช้กับธุรกิจร้านขายของเท่ ๆ ก็คงไม่เหมาะ
นอกจากการดูรูปทรงแล้ว นักออกแบบโลโก้ควรศึกษาเรื่องการใช้สี และอารมณ์ของสีด้วย เช่น สีเขียว มีความหมายเกี่ยวกับการเติบโต สุขภาพ และธรรมชาติ นอกจากนั้นยังให้อารมณ์สดชื่น ผ่อนคลายอีกด้วย ในขณะที่ สีแดง สื่อถึงอันตราย และความกระตือรือร้น

การเลือก Font ให้สื่อถึงอารมณ์ก็สำคัญ ฟ้อนต์ Garamond, Helvetica, Comic Sans ต่างให้อารมณ์คนละแบบ ฟ้อนต์มีหาง (Serif)  เช่น Garamond สื่อถึงความเคารพ ดั้งเดิม ซึ่งเหมาะกับเว็บไซต์ข่าว หรือมหาวิทยาลัยเก่าแก่ (แต่แอดมินรู้สึกว่าเว็บไซต์มหาวิทยาลัยในไทยส่วนใหญ่จะเน้นความ Modern มากกว่าความเก่าแก่ ใช้ฟ้อนต์ไม่มีหางเท่ ๆ กันหมด)
ส่วนฟ้อนต์แบบไม่มีหาง (Sans-serif) เช่น Helvetica จะให้ความรู้สึก Modern สะอาดตา เหมาะกับธุรกิจเทคโนโลยี หรือสื่อโฆษณา
ฟ้อนต์อีกแบบคือแนวน่ารัก ๆ ไม่เป็นทางการ (Casual) แบบ Comic Sans ซึ่งจะเหมาะกับธุรกิจการ์ตูน อนิเมชั่น หรือร้านขายของเล่น
บทความที่เกี่ยวข้อง: [Free Fonts Download] รวมแหล่งดาวน์โหลด ฟ้อนต์ฟรี แห่งปี !!!
ในการทำโลโก้ให้ออกมาดี เราต้องเข้าใจถึงเรื่องรูปทรง, สี, และตัวอักษร จึงจะทำให้โลโก้สื่ออารมณ์ที่เราต้องการได้

2. อยากให้โลโก้มี “ความหมาย” อย่างไร

โลโก้ที่ดีทุกโลโก้ล้วนมีความหมายอยู่เบื้องหลัง
โลโก้ที่ดีของแบรนด์ไม่ใช่แค่โลโก้ที่เอาชื่อแบรนด์มาจับคู่กับรูปทรง นั้น ๆ เฉย ๆ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมจึงไม่ควรเอาโลโก้สำเร็จรูปมาใช้กับธุรกิจเรา นักออกแบบโลโก้ต้องเข้าใจว่าแบรนด์ทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไร มีอัตลักษณ์อย่างไร มี Vision อย่างไร ถึงจะออกแบบมาเป็นโลโก้ที่ดีได้
amazon-logoดู ตัวอย่างจากโลโก้ของเว็บไซต์ชื่อดัง Amazon.com จะเห็นว่ามีลูกศรสีส้มชี้จากใต้ตัว A ไปถึงตัว Z เป็นการบ่งบอกว่า “Amazon มีทุกอย่างขาย ตั้งแต่ A ถึง Z” นอกจากนั้นลูกศรสีส้มยังโค้งเหมือนรอยยิ้ม สื่อถึงหน้าของลูกค้าที่จะยิ้มเมื่อได้รับสินค้าที่ถูกใจนั่นเอง

3. โลโก้ของเราจะมีอายุยืนยาวขนาดไหน

แน่นอนว่าคงไม่มีแบรนด์ไหนที่เปลี่ยนโลโก้ทุกปีเพื่อให้ลูกค้างงเล่น เพราะฉะนั้นนักออกแบบโลโก้ต้องคิดเสมอว่าในอีก 5 ปี, 10 ปี, 20 ปี โลโก้ของเราจะยังดูดีอยู่มั้ย
การเลือกดีไซน์โลโก้ตามเทรนด์ประจำปี หรือโทนสีประจำปีเป็นความคิดที่ไม่ดีครับ เพราะเทรนด์พวกนี้อยู่ไม่กี่ปีก็จะกลายเป็นของเก่าไป นอกจากนั้นเราจะพบว่ามีโลโก้หน้าตา โทนสีคล้าย ๆ เราเต็มไปหมดอีกด้วย
โลโก้ที่มีอายุยืนยาวมักจะเป็นโลโก้ที่เรียบง่าย และจดจำได้ง่าย ซึ่งอาจจะใช้ได้เป็น 10 – 20 ปีโดยที่ไม่ดูเก่าไปเลยด้วยซ้ำ
เทคนิคทดสอบว่าโลโก้เราจะมีอายุยืนยาวมั้ย ให้ทำเสร็จแล้วปล่อยทิ้งไว้สักระยะหนึ่งก่อนนำไปใช้จริงครับ ดูมันทุกวัน ๆ แล้วเรารู้สึกเบื่อมันมั้ย ถ้าเรารู้สึกเบื่อแปลว่าโลโก้ของเราคงมีอายุอยู่ได้ไม่นานครับ
apple-logo-history
ลองดูตัวอย่างจากโลโก้ของ Apple จะเห็นว่าถ้า Apple เลือกใช้โลโก้ที่ออกแบบในปี 1976 อันซ้ายสุด โลโก้คงตกยุคไปนานแล้วครับ แต่ Apple เลือกใช้อันกลาง ซึ่งมีความเรียบง่าย ทำให้สามารถใช้ต่อมาได้จนถึงทุกวันนี้โดยการเปลี่ยนเป็นสีเรียบเท่านั้นเอง

4. โลโก้ของเรามี “ลักษณะเฉพาะ” มั้ย? โลโก้จดจำง่ายมั้ย?

โลโก้ที่ดีต้องมีลักษณะเฉพาะ ไม่เหมือนใคร และจดจำได้ง่าย ลูกค้าควรจะจดจำรูปทรงโลโก้ของเราได้ตั้งแต่แรกเห็น วิธีการทดสอบง่าย ๆ ว่าโลโก้ของเราจดจำง่ายหรือยาก คือ ให้ลองเอาโลโก้ไปให้เพื่อนของคุณดู เสร็จแล้วอีก 1 สัปดาห์กลับมาถามเพื่อนว่าโลโก้ที่เคยให้ดูมีลักษณะเป็นยังไง คนที่ไม่เคยเห็นโลโก้มาก่อนจะช่วยบอกได้ว่าโลโก้เรามีส่วนไหนที่จดจำง่าย
โลโก้ที่คล้ายกับโลโก้อื่นอาจทำให้คนสับสน และจำแบรนด์เราสลับกับแบรนด์ของคนอื่นได้
pinterest-logo-vs-path-logoด้าน ซ้ายของรูป คือ โลโก้ของ Path แอพ Social Network ที่ดังตอนแรก ๆ ส่วนด้านขวา คือ โลโก้ของ Pinterest บริการปักหมุดรูปภาพออนไลน์ชื่อดัง จะเห็นว่า 2 โลโก้นี้มีความคล้ายกันมาก ซึ่งทำให้ผู้ใช้จำผิดได้ง่าย ๆ เลยครับ

5. โลโก้ยังดูออกมั้ยตอนเป็นสีขาว – ดำ

ปกตินักออกแบบโลโก้หลาย ๆ คนจะเริ่มออกแบบจากสีขาว – ดำก่อนครับ ซึ่งการทำแบบนี้จะช่วยให้เรามั่นใจได้ว่าโลโก้ที่ออกมาจะมีรูปทรงที่จดจำได้ ง่าย โดยไม่ต้องพึ่งพาสีของโลโก้ โลโก้ที่ดี คือ โลโก้ที่ลูกค้าบอกได้ว่าเป็นแบรนด์อะไร เพียงแค่เห็นรูปทรง
โลโก้ของเราจะถูกนำไปใช้ในสื่อหลากหลายรูปแบบ ซึ่งมีทั้งสื่อขาว-ดำ และสื่อที่มีสีครับ เพราะฉะนั้นการทำให้โลโก้ขาว – ดำมีจุดให้จดจำเพียงพอนั้นสำคัญมาก

national-geographic-logo
จะเห็นได้ว่าโลโก้ของ National Geographic ถ้าเป็นสีขาว – ดำแบบด้านซ้ายจะเหลือแต่สีเหลี่ยมสีดำ ซึ่งดูออกยากมากครับว่าเป็นแบรนด์อะไร แต่ถ้าใส่สีเหลืองเข้ามาก็จะรู้เลยว่าเป็นโลโก้ National Geographic

6. โลโก้ถ้าใช้แบบย่อเล็ก ๆ จะดูออกมั้ย

(แอดมิน: จากที่ทำงานในบริษัทเน้นด้าน Printing ข้อนี้สำคัญมากครับ กาดอกจันทร์ 10 ดอก) บางครั้งโลโก้ก็ถูกนำไปย่อเล็กในสื่อต่าง ๆ ซึ่งถ้าออกแบบโลโก้มาไม่ดี อาจทำให้กลายเป็นก้อนอะไรไม่รู้ก็เป็นได้ครับ
small-logo-test 

จาก รูปด้านบนจะเห็นได้ชัดเลยครับว่าโลโก้ Nike, McDonald, Twitter, และ WWF ดูออกง่ายมากในขนาดเล็ก แต่ถ้าเป็นโลโก้ GE หรือ Starbucks เราดูแทบไม่ออกเลยว่าเป็นโลโก้แบรนด์อะไร
หลักการคิดทั้ง 6 ข้อที่กล่าวมาไม่ได้เป็นกฏตายตัวนะครับ แต่เป็นแนวทางที่ทำให้ออกแบบโลโก้ที่ดีได้ง่ายขึ้น ซึ่งบางครั้งอาจจะไม่ต้องตรงตามวิธีในนี้เป๊ะ ๆ ก็เป็นโลโก้ที่ดีได้เช่นกัน แต่เราก็จะรู้ด้วยตัวเองว่าถ้าทำแบบไหนจะมีข้อดีข้อเสียอย่างไร
ก่อนออกแบบโลโก้ทุกครั้ง ลองถามคำถาม 6 ข้อนี้กับตัวเองดูครับ อาจจะทำให้โลโก้ของเราเป็นโลโก้ที่ดีมากขึ้นก็ได้
ขอขอบคุณบทความดีๆ จาก
www.designil.com/how-to-logo-design-tips.html 

หรือง่ายกว่านั้นแค่ ติดต่อ เรา www.logocele.com
ถ้าคิดจะ ออกแบบโลโก้ แบบสร้างแบรนด์ ติดต่อเลย



วันอาทิตย์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ผลงาน รับออกแบบโลโก้ ประจำเดือน มกราคม 2015

ผลงาน รับออกแบบโลโก้ ประจำเดือน มกราคม 2015 
วันนี้ logoceleb ขอโชว์ผลงานช่วงปีใหม่กันหน่อย กันเหงากันลืมกัน เพราะเดือนหน้าจะเป็นเดือนแห่งความรัก เพื่อจะมีลูกค้าสนใจทำโลโก้ ให้เป็นของขวัญคนรักกัน^^





















เป็นอย่างไรบ้างครับ กับผลงานเล็กๆ น้อย 20 ชิ้นงาน ออกแบบโลโก้

เพื่อให้ลูกค้าสร้างแบรนด์ได้ครน  360 องศา logoceleb จึึงเปิดรับ งานออกแบบ ต่างๆ งานสื่อสิ่งพิมพ์ 
(แผ่นพับ, โบชัวร์, โปสเตอร์ ฯลฯ ) ตลอดจน งานออกแบบเว็บ และ พัฒนาแอฟลิเคชั่น
ชมผลงานได้ที่ www.logoceleb.com
www.facebook.com/logoceleb
หรือติดต่อ youngseed.tan@gmail.com